เริ่มต้นธุรกิจ
คนที่ทำธุรกิจเองหรือคนที่กำลังเริ่มทำธุรกิจทุกคนจะทราบว่าช่วงที่ยากที่สุดคือช่วงเริ่มต้น ทุกอย่างเริ่มจากศูนย์ ไม่รู้ว่าจะทำอะไรก่อนหลัง ทำไปแล้วจะถูกใจลูกค้ามั้ย ขายแล้วจะมีคนมาซื้อมั้ย ผิดกฏหมายอะไรรึเปล่า หรือจะสูญเงินโดยใช่เหตุมั้ย ยังไม่นับเรื่องเวลาที่ต้องลงทุนลองผิดลองถูกไปอีก ซึ่งปัญหาเหล่านี้ทำให้หลายคนไม่กล้าเริ่ม หรือเริ่มแ ล้วหยุดตรงนั้น แล้วไม่เดินต่อเลย วันนี้ผมลิสต์วิธีการเริ่มต้นธุรกิจโดยไม่ต้องเริ่มใหม่ ถือเป็นทางด่วนให้ต่อยอดไปได้เร็วขึ้น ลองมาดูแต่ละวิธีเลยครับ
ซื้อหรือเซ้งธุรกิจ
การทำธุรกิจก็มีทั้งคนในอยากออก คนนอกอยากเข้า หลายธุรกิจมีความจำเป็นที่เจ้าของเดิมไม่สามารถไปต่อได้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ การเซ้งธุรกิจก็ถือเป็นทางเลือกนึงที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้นแบบไม่ต้องเหนื่อย
ตัวผมเองเคยคิดจะเซ้งธุรกิจ 2 -3 อย่าง เจ้าของเดิมตั้งใจจะขายด้วยเหตุผลยอดฮิตคือธุรกิจยังดีอยู่แต่ต้องไปเรียนต่อเมืองนอก ตอนนั้นได้คุยกับเจ้าของเดิมแล้วรู้สึกว่าไม่น่าเชื่อถือ เลยไม่ได้เซ้งมาทำ ภายหลังพบว่าตัดสินใจถูกแล้ว เพราะธุรกิจนั้นปิดตัวลงไปจริงๆ
ในการเซ้งธุรกิจที่ดีนั้น เราควรมีแผนการชัดเจนว่ามันจะเกื้อหนุนกับสิ่งที่เราทำอยู่ หรือความชอบส่วนตัวของเรายังไง รวมถึงสิ่งที่เราคิดว่าจะได้มาจากการเซ้งธุรกิจคืออะไร เช่น ฐานลูกค้าเดิม ระบบการทำงาน โลเคชั่นที่ดี แต่บอกตามตรงว่าค่อนข้างหาดีๆ ได้ยาก เพราะถ้าของดีจริง เจ้าของเดิมจะปล่อยทำไม ยกเว้นจะไปเรียนต่อเมืองนอกจริงๆ ใช่มั้ยครับ อิอิ
ต่อยอดจากกิจการที่บ้าน
สำหรับท่านมีกิจการเดิมของที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นโรงงานบริษัทร้านค้า รวมถึงเทือกสวนไร่นาของท่านด้วย แน่นอนว่าการจะต่อยอดจากกิจการเดิมของที่บ้านจะมีอุปสรรคในเรื่องของแนวคิดของคนสองรุ่น รวมถึงระบบการจ่ายผลตอบแทน
เราใช้ธุรกิจเดิมของที่บ้านได้โดยการยืมปัจจัยการผลิต มาทำสินค้าเราเอง (จ้างที่บ้านผลิต) หรือยืมฐานลูกค้าที่บ้านที่รู้จักครอบครัวเราเป็นอย่างดี มาเป็นฐานลูกค้าเริ่มต้นของเราที่จะนำเสนอสินค้าใหม่ที่เราขายเอง (ขอยืมมือเตี่ยหาลูกค้า)
ในส่วนเกษตรกรรม ผมก็เห็นว่าปัจจุบันนี้มีหลายแห่งพัฒนาสินค้าจนเกิดเป็นมูลค่าเพิ่ม ส่งออกไปเมืองนอกได้เยอะแยะ เช่น บางรายจากเดิมขายข้าว ปัจจุบันก็เพิ่มมูลค่าแล้วขายสินค้าได้ราคามากขึ้น เป็นต้น
ต่อยอดจากลูกค้าเดิมหรือคนรอบข้าง
บางทีลูกค้าเราอาจจะซื้อสินค้าบางอย่างกับเราเป็นประจำ จนเราลืมมองข้ามไปว่าชีวิตนี้เค้าคงไม่ได้ใช้ของแค่อย่างเดียว ถ้าเราได้ลองถามลูกค้าเดิมของเราสักนิด ก็จะหาทางต่อยอดสินค้าเราได้ เพราะไหนๆ เราก็รู้จักเค้าแล้ว การสั่งซื้อสินค้าอื่นๆ จากเราคงไม่เป็นปัญหาอะไร เพราะเราเชื่อใจกันแล้ว
นอกจากนี้เรายังสามารถขายสินค้าที่เพื่อนเราต้องการได้อีกด้วย แนวทางนี้ผมไม่ได้ให้ขายเพื่อนอย่างเดียวนะครับ แค่เรามองว่าเพื่อนเราเป็นคนกลุ่มแบบไหน เราก็หาธุรกิจที่คิดว่าคนกลุ่มนี้จะซื้อหรือใช้บริการ เช่น เพื่อนเราแต่งงาน มีลูก เลี้ยงสัตว์ ชอบท่องเที่ยว ชอบขี่จักรยานฟิกเกียร์ เป็นต้น
ซื้อแฟรนไชส์
วิธีนี้สำหรับท่านที่มีเงินลงทุนสูงพอสมควร และยอมรับความเสี่ยงได้ ก็น่าจะเป็นวิธีที่ดี ในมุมมองผมผู้ที่จะซื้อแฟรนไชส์ นอกจากจะได้รับผลตอบแทนแล้ว (เฉพาะจากกิจการที่ดี) ยังได้เรียนรู้ know-how และวิธีการทำงานของเจ้าของแฟรนไชส์อีกด้วย (หากเค้าเปิดเผย) ซึ่งทำให้ในอนาคตสามารถมาเริ่มธุรกิจแบบเดียวกันได้อีก
ก็ยังมีทางด่วนอีกหลายหลายทางนะครับ เราไม่จำเป็นต้องใช้ทุกทางแค่เลือกทางที่ถนัดและใช่สำหรับเรา แล้วเริ่มจากจุดนั้น ก็พอแล้วครับ